รีวิว : ยกกระชับหน้า & ฉีดโบท็อกซ์ ที่ Doctor Tony Beauty Clinic



ฮาโหลๆ วันนี้เราพาทุกคนมาทำสวยกันที่เดิม Doctor Tony Beauty Clinic สาขา The Crystal เดี๋ยวขอเกริ่นสักนิดก่อนล่ะกันนะสำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้อ่านรีวิวก่อนหน้านี้ คือว่ารอบที่แล้วอ่ะเอ็มเคยรีวิวฉีดโบท็อกซ์ไปซึ๋งเอ็มว่ามันดีมากๆ เลย ติดใจก็เลยมาอีกรอบเดี๋ยวไปดูพร้อมๆ กันว่าวันนี้เอ็มจะมาลองใช้บริการอะไร ไปดูกันค่ะ 

Smiley By Emmoojung Smiley




เกริ่นกันอีกครั้งสำหรับคนที่มา The Crystal ถูก แต่ไม่รู้ว่าคลินิกอยู่ตรงไหนเอ็มขออธิบายง่ายๆ ให้แล้วกัน คือเอาเป็นว่าเดินหาบันไดแรกที่อยู่ตรงข้ามร้านเสวย หรือถ้ามองจากชั้น 1 ก็ตรงข้ามร้าน S&P อ่ะ พอหาร้านเจอแล้วก็เดินตรงขึ้นมาชั้น 2 ได้เลย เดินตรงมานิดเดียวก็เจอคลินิกแล้วจ้า


เนื่องจากเอ็มเคยเข้ารับบริการที่นี่แล้ว เอ็มเลยไม่ต้องกรอกประวัติใหม่ให้วุ่นวายก็แค่แจ้งชื่อแล้วนั่งรอพบคุณหมอได้เลยจ้า เห็นม่ะเจ้าโซฟานุ่มๆ ก็พร้อมให้เรานั่งหลับเอ๊ยย..นั่งรอเสมอ 55+ คือเอาเป็นว่าลูกค้าเยอะทุกครั้งที่มาอ่ะ



ระหว่างนั่งรอคุณหมอเพลินๆ เราก็นั่งอ่านหนังสือข้างๆ โซฟาไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน โดยหนังสือของที่นี่แต่ละเล่มก็ล้วนแล้วแต่มีหน้าคุณหมออยู่ในหนังสือ มีทั้งประวัติย่อๆ ของคุณหมอรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทางคลินิกเขาสรรหามาให้สาวๆ ได้ลองใช้บริการกันดู 



อ้าา..ได้พบกับคุณหมอแล้ว ก็ตามเดิมค่ะคุณหมอก็จะสอบถามถึงบริเวณที่เรากังวัลว่าอยากแก้ไขอะไรตรงไหน ยังไง รวมถึงให้คำปรึกษาว่าสมควรทำอะไรตรงนี้ตรงนั้นสมควรทำหรือเปล่า โดยปัญหาในครั้งนี้ของเอ็มคือเริ่มมีความรู้สึกว่าแก้มใหญ่ๆ ของเอ็มมันเริ่มจะห้อยแล้วล่ะ ก็นะตามแรงโน้มถ่วงของโลกอ่ะแหละคุณขา คุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำ ThermiSmooth ดู


และก็รู้สึกเหมือนแก้มฝั่งนึงจะห้อยกว่าอีกฝั่งนึงด้วย ซึ่งตัวนี้คุณหมอบอกว่าอาจจะต้องใช้โบท็อกซ์ช่วยเก็บให้ดูเนียน ส่วนตีนกาก็เหมือนจะเริ่มมานิดๆ ล่ะ แต่ยังไม่เยอะหรอก เพราะว่าเพิ่งฉีดไปตอนนู้นยังไม่ครบ 6 เดือน ยาก็เลยยังไม่หมดไปเลยซะทีเดียว รวมถึงเริ่มมีเหนียงบ้างแล้วด้วยเวลายิ้มหรือเผลอๆ อะไรเงี้ยมักจะเห็นอ่ะ ดูแก่อ่าาา แง้



ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้ากัน โดยในวันนี้ผู้ช่วยใจดีบอกว่าเดี๋ยวลบแค่ผิวๆ พอไม่ลบบริเวณตากับปากเนอะ จะได้ถ่ายรูปได้สวยๆ ฮ่าๆ นั่นแหละสิ่งที่ต้องการเลย



จากนั้นก็มานอนรอคุณหมอที่ห้อง โดยจากภาพที่เราเห็นเราจะเห็นว่ามีกล้องกับหน้าจออินฟราเรดอยู่ใช่ม่ะ ไม่ใช่กล้องเอ็มนะ อย่าเข้าใจผิด ฮ่าๆ มันคือกล้องที่ใช้เชื่อมต่อกับหน้าจออินฟราเรดเพื่อควบคุมการทำตัว ThermiRF นั่นเอง 



จริงๆ ก่อนหน้านี้เอ็มเคยอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีของเจ้าเครื่องนี้ไปแล้วเนอะ รอบนี้เรามาทำความรู้จักกันแบบเชิงลึกบ้างดีกว่า ว่ามันทำงานยังไงและมีประโยชน์ยังไงเนอะ สำหรับ โปรแกรม ThermiRF นี้เป็นโปรแกรมที่โด่งดังในระดับ Hollywood เลยนะ เพราะมันคือเทคโนโลยีเพื่อการกระชับเรือนร่างด้วยวิธีการแบบไม่ต้องผ่าตัด ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยจากไขมัน ความไม่กระชับตึงของผิวหนัง โดยที่สามารถใช้ได้ทั้งที่ใบหน้าและสัดส่วนในร่างกาย นอกจากช่วยยกกระชับแล้วยังสามารถช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้แล้วยังช่วยกำจัดไขมันได้บางส่วนอีกด้วย



นอกจากนี้ยังมีหน้าจออินฟราเรด เพื่อให้คุณหมอสามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่องได้อย่างละเอียดตลอดเวลา ซึ่งการใช้คลื่นอินฟราเรดชนิดนี้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ทั้งยังได้รับการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วว่า มีความปลอดภัยและเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในการรักษาปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับหลักการทำงานของเครื่องนี้จะส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเพียง 5-10 มิลลิเมตร แหน่ะ อย่าเข้าใจผิดเพราะเข็มในทีนี้ไม่ได้หมายถึงเข็มฉีดยาแบบนั้น >,< มันคือเข็มทางเทคโนโลยีหัวแบบในรูปนี่แหละ โดยที่พลังงานจากหัวเข็มจะส่งไปยังชั้นผิวที่อยู่เหนือมัดกล้ามเนื้อก่อให้เกิดการหดตัวในทุกชั้นผิว และยังช่ยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติอีกด้วย


สำหรับบริเวณที่ทำการรักษาได้ ได้แก่ - ถุงไขมันใต้ตา หนังตาหย่อนคล้อย - ไขมันใต้คาง 2 ชั้น - หนังที่แก้มและบริเวณ
ไม่มีคอเพราะไขมันที่กรอบหน้าเยอะจนถึงคอ - คอหย่อนคล้อยมีริ้วรอยหลายชั้น ไม่เรียบตึง - หน้าอกหย่อนคล้อย - เนินหน้าอกเหี่ยวหย่อน - เนื้อนมที่เกินออกมา - จุดซ่อนเร้น ฯลฯ โดยที่วิธีการนี้ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือผลข้างเคียงด้วยนะ

ก็อย่างว่าแหละเนอะเทคโนโลยีเขาดีขนาดนี้ ราคาจึงค่อนข้างจะสูงสักหน่อย สำหรับการทำต่อครั้งอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งถ้าจะเอาให้เห็นผลแบบอยู่ได้เป็นปีน่าจะต้องซื้อเป็นคอร์สนะ เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าและเห็นประสิทธิภาพได้มากกว่าจ้า



มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนเนื่องจากที่เอ็มบอกไปในตอนต้นใช่ม่ะว่าแก้มห้อยไม่เท่ากัน คุณหมอเลยจะขอย้ำความชัดของแก้มให้ดูเท่ากันด้วยการฉีดโบท็อกซ์เก็บซักหน่อย ซึ่งสำหรับที่นี่ก่อนทำทุกครั้งคุณหมอจะให้เราดูขวดโบท็อกซ์เลยว่าของเขาเนี้ยของ Allergan ซึ่งเป็นของ USA แน่นอน ไม่อิงแอบเปลี่ยนขวดแต่อย่างใด เพราะคุณหมอแกะตรงนั้นฉีดตรงนั้นเลยจ้า


และเช่นเดิมค่ะ รอบนี้คุณหมอก็จัดการใช้โบท็อกซ์ที่เหลือค่อยๆ เก็บบริเวณเหนียงให้ด้วย โดยวิธีการก็แบบเดิมคือค่อยๆ ไล่บริเวณเหนียงไปทีละนิดๆ เหมือนฉีดลงแค่ปลายเข็มอ่ะ จิ๊ดๆ นิดหน่อย สบายมาก รอบนี้ก็เหมาหมดขวดเช่นเดิมที่ 100 ยูนิต แต่เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นของอเมริกา ราคาจึงจะค่อนข้างสูงสักหน่อยอยู่ที่ขวดละ 45,000 บาท จ้า

Smiley เอ็มได้ทำการบันทึกภาพก่อนและหลังทำไว้ให้ได้ดูกันด้วยตามภาพด้านล่างค่ะ Smiley

สำหรับตีนกาอย่างที่บอกว่าเพิ่งจะฉีดไปก็เลยไม่เห็นเป็นริ้วยาวมากนักเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้แค่เติมนิดหน่อยเท่านั้น
ก็เช่นเดิมคุณหมอโทนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวังฉีดที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าจะยิ้มเป็นแอนนาเบล ฮ่าๆ เพราะเขาไม่ได้ฉีดให้เรารู้สึก
ว่าตึงไปซะหมดจนยิ้มไม่ได้ อันนี้เราสามารถยิ้มได้ตามปกติเลยค่ะ คือคนอื่นไม่รู้อ่ะว่าฉีดมาแน่นอน อิ_อิ

จากภาพคือจะสังเกตได้ว่าบริเวณแก้มเอ็มเริ่มมีส่วนเว้านิดนึงแล้วม่ะ ฮ่าๆ คือต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวเป็นคนแก้มใหญ่มากไง
ฉีดโบท็อกซ์ยังไงมันก็ไม่เล็กเรียวลงมากหรอก วิธีแก้คงต้องตัดกระพุงแก้มออกอ่ะ แต่ก็นะไม่อยากผ่าตัดไงไม่ได้กลัวนะ
แต่ขี้เกียจรักษาตัวอ่ะ แก่แล้วด้วยกลัวจะติดเชื้อง่ายเลยลองหาวิธีอื่นๆ ดูก่อนที่คิดว่าน่าจะช่วยได้


ซึ่งจากที่เคยฉีดโบท็อกซ์มาหลายๆ ที่ ที่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่หลังจากฉีดแล้วถ่ายรูปออกมาเห็นส่วนเว้าของแก้มด้วยคือมันทำให้รู้สึกว่าหน้าดูเรียวขึ้นเลยอ่ะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการทำตัว ThermiSmooth ควบคู่ไปกับการฉีด Botox นั่นแหละเพราะตอนที่ทำตัว ThermiSmooth เสร็จคุณหมอเขาก็ให้ดูเปรียบเทียบเลยนะว่าข้างที่ทำกับข้างที่ไม่ได้ทำมันไม่เท่ากันแล้ว คือข้างที่ทำจะดูยกกระชับขึ้นมากกว่าแบบสังเกตได้เลย Smiley

Smiley Smiley Smiley
 แต่ละคนอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันออกไปนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะทำอะไรบ้าง ยังไงให้คุณหมอวิเคราะห์ก่อนดีที่สุดเนอะ ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปสอบถามที่คลินิกดูหรือสอบถามทางหน้าเพจของ Dr.Tony ก็ได้จ้า https://www.facebook.com/dr.tonybeautyexpert

Smiley นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ Smiley
ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและปัจจัยของผิวและริ้วรอยของแต่ละบุคคลด้วย


สุดท้ายนี้ก็เช่นเดิมค่ะ ยังคงย้ำเสมอว่าการฉีดโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดควรอยู่ในความดูแลของแพทย์รวมถึงศึกษาความน่าเชื่อถือของแต่ละคลินิกก่อนเข้ารับบริการด้วย ถึงจะแพงหน่อยแต่ก็ปลอดภัยกว่าเยอะ เพราะถ้าเกิดว่าหน้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้ว เงินเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถเรียกให้หน้ากลับมาเป็นได้เหมือนเดิมแล้วนะ ไม่คุ้มเลยใช่ไหมล่ะ