รีวิว : ยกกระชับหน้า & ฉีดโบท็อกซ์ ที่ Doctor Tony Beauty Clinic



ฮาโหลๆ วันนี้เราพาทุกคนมาทำสวยกันที่เดิม Doctor Tony Beauty Clinic สาขา The Crystal เดี๋ยวขอเกริ่นสักนิดก่อนล่ะกันนะสำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้อ่านรีวิวก่อนหน้านี้ คือว่ารอบที่แล้วอ่ะเอ็มเคยรีวิวฉีดโบท็อกซ์ไปซึ๋งเอ็มว่ามันดีมากๆ เลย ติดใจก็เลยมาอีกรอบเดี๋ยวไปดูพร้อมๆ กันว่าวันนี้เอ็มจะมาลองใช้บริการอะไร ไปดูกันค่ะ 

Smiley By Emmoojung Smiley




เกริ่นกันอีกครั้งสำหรับคนที่มา The Crystal ถูก แต่ไม่รู้ว่าคลินิกอยู่ตรงไหนเอ็มขออธิบายง่ายๆ ให้แล้วกัน คือเอาเป็นว่าเดินหาบันไดแรกที่อยู่ตรงข้ามร้านเสวย หรือถ้ามองจากชั้น 1 ก็ตรงข้ามร้าน S&P อ่ะ พอหาร้านเจอแล้วก็เดินตรงขึ้นมาชั้น 2 ได้เลย เดินตรงมานิดเดียวก็เจอคลินิกแล้วจ้า


เนื่องจากเอ็มเคยเข้ารับบริการที่นี่แล้ว เอ็มเลยไม่ต้องกรอกประวัติใหม่ให้วุ่นวายก็แค่แจ้งชื่อแล้วนั่งรอพบคุณหมอได้เลยจ้า เห็นม่ะเจ้าโซฟานุ่มๆ ก็พร้อมให้เรานั่งหลับเอ๊ยย..นั่งรอเสมอ 55+ คือเอาเป็นว่าลูกค้าเยอะทุกครั้งที่มาอ่ะ



ระหว่างนั่งรอคุณหมอเพลินๆ เราก็นั่งอ่านหนังสือข้างๆ โซฟาไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน โดยหนังสือของที่นี่แต่ละเล่มก็ล้วนแล้วแต่มีหน้าคุณหมออยู่ในหนังสือ มีทั้งประวัติย่อๆ ของคุณหมอรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทางคลินิกเขาสรรหามาให้สาวๆ ได้ลองใช้บริการกันดู 



อ้าา..ได้พบกับคุณหมอแล้ว ก็ตามเดิมค่ะคุณหมอก็จะสอบถามถึงบริเวณที่เรากังวัลว่าอยากแก้ไขอะไรตรงไหน ยังไง รวมถึงให้คำปรึกษาว่าสมควรทำอะไรตรงนี้ตรงนั้นสมควรทำหรือเปล่า โดยปัญหาในครั้งนี้ของเอ็มคือเริ่มมีความรู้สึกว่าแก้มใหญ่ๆ ของเอ็มมันเริ่มจะห้อยแล้วล่ะ ก็นะตามแรงโน้มถ่วงของโลกอ่ะแหละคุณขา คุณหมอก็เลยแนะนำให้ทำ ThermiSmooth ดู


และก็รู้สึกเหมือนแก้มฝั่งนึงจะห้อยกว่าอีกฝั่งนึงด้วย ซึ่งตัวนี้คุณหมอบอกว่าอาจจะต้องใช้โบท็อกซ์ช่วยเก็บให้ดูเนียน ส่วนตีนกาก็เหมือนจะเริ่มมานิดๆ ล่ะ แต่ยังไม่เยอะหรอก เพราะว่าเพิ่งฉีดไปตอนนู้นยังไม่ครบ 6 เดือน ยาก็เลยยังไม่หมดไปเลยซะทีเดียว รวมถึงเริ่มมีเหนียงบ้างแล้วด้วยเวลายิ้มหรือเผลอๆ อะไรเงี้ยมักจะเห็นอ่ะ ดูแก่อ่าาา แง้



ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้ากัน โดยในวันนี้ผู้ช่วยใจดีบอกว่าเดี๋ยวลบแค่ผิวๆ พอไม่ลบบริเวณตากับปากเนอะ จะได้ถ่ายรูปได้สวยๆ ฮ่าๆ นั่นแหละสิ่งที่ต้องการเลย



จากนั้นก็มานอนรอคุณหมอที่ห้อง โดยจากภาพที่เราเห็นเราจะเห็นว่ามีกล้องกับหน้าจออินฟราเรดอยู่ใช่ม่ะ ไม่ใช่กล้องเอ็มนะ อย่าเข้าใจผิด ฮ่าๆ มันคือกล้องที่ใช้เชื่อมต่อกับหน้าจออินฟราเรดเพื่อควบคุมการทำตัว ThermiRF นั่นเอง 



จริงๆ ก่อนหน้านี้เอ็มเคยอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีของเจ้าเครื่องนี้ไปแล้วเนอะ รอบนี้เรามาทำความรู้จักกันแบบเชิงลึกบ้างดีกว่า ว่ามันทำงานยังไงและมีประโยชน์ยังไงเนอะ สำหรับ โปรแกรม ThermiRF นี้เป็นโปรแกรมที่โด่งดังในระดับ Hollywood เลยนะ เพราะมันคือเทคโนโลยีเพื่อการกระชับเรือนร่างด้วยวิธีการแบบไม่ต้องผ่าตัด ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยจากไขมัน ความไม่กระชับตึงของผิวหนัง โดยที่สามารถใช้ได้ทั้งที่ใบหน้าและสัดส่วนในร่างกาย นอกจากช่วยยกกระชับแล้วยังสามารถช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้แล้วยังช่วยกำจัดไขมันได้บางส่วนอีกด้วย



นอกจากนี้ยังมีหน้าจออินฟราเรด เพื่อให้คุณหมอสามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่องได้อย่างละเอียดตลอดเวลา ซึ่งการใช้คลื่นอินฟราเรดชนิดนี้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ทั้งยังได้รับการรับรองจากสำนักงานอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วว่า มีความปลอดภัยและเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในการรักษาปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับหลักการทำงานของเครื่องนี้จะส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเพียง 5-10 มิลลิเมตร แหน่ะ อย่าเข้าใจผิดเพราะเข็มในทีนี้ไม่ได้หมายถึงเข็มฉีดยาแบบนั้น >,< มันคือเข็มทางเทคโนโลยีหัวแบบในรูปนี่แหละ โดยที่พลังงานจากหัวเข็มจะส่งไปยังชั้นผิวที่อยู่เหนือมัดกล้ามเนื้อก่อให้เกิดการหดตัวในทุกชั้นผิว และยังช่ยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติอีกด้วย


สำหรับบริเวณที่ทำการรักษาได้ ได้แก่ - ถุงไขมันใต้ตา หนังตาหย่อนคล้อย - ไขมันใต้คาง 2 ชั้น - หนังที่แก้มและบริเวณ
ไม่มีคอเพราะไขมันที่กรอบหน้าเยอะจนถึงคอ - คอหย่อนคล้อยมีริ้วรอยหลายชั้น ไม่เรียบตึง - หน้าอกหย่อนคล้อย - เนินหน้าอกเหี่ยวหย่อน - เนื้อนมที่เกินออกมา - จุดซ่อนเร้น ฯลฯ โดยที่วิธีการนี้ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือผลข้างเคียงด้วยนะ

ก็อย่างว่าแหละเนอะเทคโนโลยีเขาดีขนาดนี้ ราคาจึงค่อนข้างจะสูงสักหน่อย สำหรับการทำต่อครั้งอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งถ้าจะเอาให้เห็นผลแบบอยู่ได้เป็นปีน่าจะต้องซื้อเป็นคอร์สนะ เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าและเห็นประสิทธิภาพได้มากกว่าจ้า



มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนเนื่องจากที่เอ็มบอกไปในตอนต้นใช่ม่ะว่าแก้มห้อยไม่เท่ากัน คุณหมอเลยจะขอย้ำความชัดของแก้มให้ดูเท่ากันด้วยการฉีดโบท็อกซ์เก็บซักหน่อย ซึ่งสำหรับที่นี่ก่อนทำทุกครั้งคุณหมอจะให้เราดูขวดโบท็อกซ์เลยว่าของเขาเนี้ยของ Allergan ซึ่งเป็นของ USA แน่นอน ไม่อิงแอบเปลี่ยนขวดแต่อย่างใด เพราะคุณหมอแกะตรงนั้นฉีดตรงนั้นเลยจ้า


และเช่นเดิมค่ะ รอบนี้คุณหมอก็จัดการใช้โบท็อกซ์ที่เหลือค่อยๆ เก็บบริเวณเหนียงให้ด้วย โดยวิธีการก็แบบเดิมคือค่อยๆ ไล่บริเวณเหนียงไปทีละนิดๆ เหมือนฉีดลงแค่ปลายเข็มอ่ะ จิ๊ดๆ นิดหน่อย สบายมาก รอบนี้ก็เหมาหมดขวดเช่นเดิมที่ 100 ยูนิต แต่เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นของอเมริกา ราคาจึงจะค่อนข้างสูงสักหน่อยอยู่ที่ขวดละ 45,000 บาท จ้า

Smiley เอ็มได้ทำการบันทึกภาพก่อนและหลังทำไว้ให้ได้ดูกันด้วยตามภาพด้านล่างค่ะ Smiley

สำหรับตีนกาอย่างที่บอกว่าเพิ่งจะฉีดไปก็เลยไม่เห็นเป็นริ้วยาวมากนักเหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้แค่เติมนิดหน่อยเท่านั้น
ก็เช่นเดิมคุณหมอโทนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวังฉีดที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าจะยิ้มเป็นแอนนาเบล ฮ่าๆ เพราะเขาไม่ได้ฉีดให้เรารู้สึก
ว่าตึงไปซะหมดจนยิ้มไม่ได้ อันนี้เราสามารถยิ้มได้ตามปกติเลยค่ะ คือคนอื่นไม่รู้อ่ะว่าฉีดมาแน่นอน อิ_อิ

จากภาพคือจะสังเกตได้ว่าบริเวณแก้มเอ็มเริ่มมีส่วนเว้านิดนึงแล้วม่ะ ฮ่าๆ คือต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวเป็นคนแก้มใหญ่มากไง
ฉีดโบท็อกซ์ยังไงมันก็ไม่เล็กเรียวลงมากหรอก วิธีแก้คงต้องตัดกระพุงแก้มออกอ่ะ แต่ก็นะไม่อยากผ่าตัดไงไม่ได้กลัวนะ
แต่ขี้เกียจรักษาตัวอ่ะ แก่แล้วด้วยกลัวจะติดเชื้อง่ายเลยลองหาวิธีอื่นๆ ดูก่อนที่คิดว่าน่าจะช่วยได้


ซึ่งจากที่เคยฉีดโบท็อกซ์มาหลายๆ ที่ ที่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่หลังจากฉีดแล้วถ่ายรูปออกมาเห็นส่วนเว้าของแก้มด้วยคือมันทำให้รู้สึกว่าหน้าดูเรียวขึ้นเลยอ่ะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการทำตัว ThermiSmooth ควบคู่ไปกับการฉีด Botox นั่นแหละเพราะตอนที่ทำตัว ThermiSmooth เสร็จคุณหมอเขาก็ให้ดูเปรียบเทียบเลยนะว่าข้างที่ทำกับข้างที่ไม่ได้ทำมันไม่เท่ากันแล้ว คือข้างที่ทำจะดูยกกระชับขึ้นมากกว่าแบบสังเกตได้เลย Smiley

Smiley Smiley Smiley
 แต่ละคนอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันออกไปนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าจะทำอะไรบ้าง ยังไงให้คุณหมอวิเคราะห์ก่อนดีที่สุดเนอะ ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปสอบถามที่คลินิกดูหรือสอบถามทางหน้าเพจของ Dr.Tony ก็ได้จ้า https://www.facebook.com/dr.tonybeautyexpert

Smiley นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ Smiley
ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและปัจจัยของผิวและริ้วรอยของแต่ละบุคคลด้วย


สุดท้ายนี้ก็เช่นเดิมค่ะ ยังคงย้ำเสมอว่าการฉีดโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดควรอยู่ในความดูแลของแพทย์รวมถึงศึกษาความน่าเชื่อถือของแต่ละคลินิกก่อนเข้ารับบริการด้วย ถึงจะแพงหน่อยแต่ก็ปลอดภัยกว่าเยอะ เพราะถ้าเกิดว่าหน้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้ว เงินเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถเรียกให้หน้ากลับมาเป็นได้เหมือนเดิมแล้วนะ ไม่คุ้มเลยใช่ไหมล่ะ

มามาส์กหน้า ให้ขาวกระจ่างใสกันเถอะนะโคลนดี L'Oreal Pure Clay Mask


การที่ผู้หญิงอย่างเราๆ อยากจะมีผิวสวยให้ยั่งยืนคงกระพันนี่ไม่ง่ายเลยเนอะ เพราะทุกวันนี้นอกจากจะแต่งหน้าจัดเต็มแล้วมลภาวะเอย ฝุ่นเอย ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาผิวอุดตัน หมองคล้ำ รูุขมขนกว้าง บางทีล้างหน้าไม่สะอาดสิวก็ขึ้นอีก พี่เอ็มว่ามันคงถึงเวลาแล้วล่ะที่เราต้องให้เวลาผิวได้พักได้หายใจบ้าง ใครๆ ก็อยากมีคนที่ดูแลใช่มั้ยละคะ ?ผิวเองก็ต้องได้รับการดูแลบ้าง..

และวันนี้ก็เช่นเดิมพี่เอ็มมีของเล่นใหม่มาแนะนำเป็นมาส์กโคลนของลอรีอัล ตัวนี้ทางแบรนด์เขาเคลมไว้เลยนะว่าขายดีมากๆ ที่ยุโรป ดูแล้วก็น่าจะดีจริงๆ แหละเพราะเห็นบล็อกเกอร์รีวิวกันเยอะเลย ถึงคราวพี่ไทยได้ลองใช้กันสักที ไม่รอช้า ขอเห่อเลยแล้วกัน
Smiley By Emmoojung Smiley
Smiley เริ่มดูกันที่คำเคลมของผลิตภัณฑ์กันก่อน Smiley

L'Oreal Pure Clay Mask

“ลอรีอัล เพียว เคลย์ มาส์ก .. โคลนนี้ที่ดูแล”

มาส์กโคลน ทำความสะอาดผิวล้ำลึกถึงระดับรูขุมขนราวกับดีท็อกซ์ผิว โคลนมีเนื้อสัมผัสละเอียดและขนาดเล็กจึงแนบชิดกับผิวได้ดี ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำที่พอโดนน้ำก็พองตัวออกดูดซึมซับความมันส่วนเกิดสิ่งสกปรกตกค้างเครื่องสำอางออกมาได้หมดจด คุณภาพเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาเพียง 399 บาท


Smiley หลายคนอาจจะงงว่าแต่ละตัวมันแตกต่างกันยังไง เอาเป็นว่าจำกันแบบง่ายๆ แล้วกัน Smiley

Hydration โคลนขาว สูตรผิวนุ่มชุ่มชื่น ( สูตรนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่ร้านวัตสันเท่านั้น)

Illuminating โคลนเทา สูตรผิวกระจ่างใส

Anti-Pores โคลนเขียว สูตรกระชับรูขุมขน

Detoxify โคลนดำ สูตรผิวสะอาดล้ำลึก

Smiley ไล่ดูกันทีละตัวเริ่มจากซ้ายไปขวาแล้วกันนะ Smiley
โคลนขาว Hydration ตัวนี้เนื้อมาส์กจะเข้มข้น สัมผัสลื่นและเนียนนุ่ม

โคลนเทา Illuminating เนื้อโคลนสัมผัสนุ่มเช่นกันแต่ตัวนี้จะแตกต่างจากตัวอื่นๆ ตรงที่มี

เม็ดบีดส์เล็กๆ ผสมอยู่ในเนื้อโคลนช่วยผลัดเซลส์ผิวได้ด้วยนะ
โคลนเขียว Anti-Pores เนื้อสัมผัสนุ่มแนบสนิทไปกับผิว
โคลนดำ Detoxify เนื้อโคลนเขาจะเนียนกว่าทุกตัว เวลาที่มาส์กลงบนผิวจะรู้สึกอุ่นๆ

ตัวบรรจุภัณฑ์เป็นกระปุกแก้ว หนา ใส ฝาเปิดปิดง่าย สำหรับวิธีใช้ก็ง่ายๆ หลังทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าแล้วทาเคลย์ มาส์ก ลงบนผิวหน้าที่หมาดๆ ให้ทั่ว โดยหลีกเลี่ยงบริเวณดวงตา ทิ้งไว้ 10 นาที รอจนแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แนะนำให้ใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องล้างหน้าด้วยโฟมอีกรอบนะคะ 

L'Oreal Pure Clay Mask Anti-Pores

โคลนเขียวสูตรกระชับรูขุมขน สาวๆ คนไหนที่รูขุมขนกว้างแนะนำตัวนี้เลย เพราะตัวนี้เป็นสูตรควบคุมความมัน กระชับรูุขุมขน ช่วยดูดซับความมันและสิ่งสกปรก แถมยังช่วยขจัดสิ้วเสี้ยนได้ด้วยนะ

L'Oreal Pure Clay Mask Illuminating

โคลนเทาสูตรเพื่อผิวกระจ่างใส สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองหน้าหมองๆ ผิวหน้าไม่สดใส ลองใช้ตัวนี้ดูเพราะตัวนี้ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น

L'oreal Pure Clay Mask Hydration

โคลนขาวสูตรเพื่อผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น ตัวนี้เหมาะมากๆ สำหรับสาวๆ ที่ผิวแห้ง เพราะตัวนี้นอกจากจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกจากผิวได้แล้ว ยังช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นด้วยสูตรนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่วัตสันเท่านั้นนะ

L'Oreal Pure Clay Mask Detoxify

โคลนดำสูตรเพื่อผิวสะอาดล้ำลึก อันนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่อยากจะทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก หมดจดหรือว่าดีท็อกผิวหน้านั่นแหละ เพราะมันจะช่วยทำให้ผิวแลดูเปล่งประกายขึ้นนั่นเอง



หรือเราจะใช้ทุกสูตร Multi Mask - Mask it My Way เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวในส่วนต่างๆ เลยก็ได้ เช่น


บริเวณทีโซน ต้องการลดความมันส่วนเกิน ใช้โคลนเขียว
บริเวณแก้ม ต้องการความชุ่มชื่น ใช้โคลนสีขาว
บริเวณหน้าผาก ต้องการความกระจ่างใส ก็ใช้โคลนสีเทา
บริเวณคาง ต้องการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ก็ใช้โคลนดำ


สำหรับความรู้สึกหลังใช้ส่วนตัวคือชอบนะ เนื้อมาส์กเขาเนียนละเอียดดีอ่ะ ตอนที่มาส์กจะรู้สึกเย็นๆ ผิวดี หลังล้างมาส์กออกแล้วจะรู้สึกว่าผิวเนียนนุ่มขึ้นเลยแหละ รู้สึกได้ว่าผิวสะอาดขึ้นจริงๆ นะ หน้าไม่มันด้วย ราคาก็ไม่แพงด้วย 



Smiley Smiley Smiley
ก็ถ้าใครสนใจก็ลองสอบถามดูกันได้ที่ทางหน้าเพจของผลิตภัณฑ์แล้วกันนะ 

Lineofficial: @lorealparis
#แค่บอกต่อไม่ได้ขาย#
Smiley นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ Smiley


ทั้งนี้ทั้งนั้นผลของการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ขึ้นอยู่กับพื้นฐานผิวของแต่ละคนด้วย
Sponsored Product : L'Oreal Paris Thailand

รีวิว : บวชชี ที่วัดมเหยงค์ จ.อยุธยา


รีวิว : บวชชี ที่วัดมเหยงค์ จ.อยุธยา

Smiley By Emmoojung Smiley

สวัสดีคะ วันนี้เอ็มจะพาทุกคนไปบวชที่วัดมเหยงค์ จ.อยุธยากัน การเดินทางนั้นก็ไม่ยากคะถ้านั่งรถตู้มาพอถึงอยุธยาตรงวนเวียนแล้ว ก็สามารถต่อมอไซต์วินเข้าวัดได้เลยคะ ประมาณ 20 บาท

สำหรับคนที่ขับรถ (จากบางนา) ก็ขับตรงมาทางบางปะอินไปเรื่อยๆ ตามป้ายเข้าอยุธยาจนเจอเจดีย์วงเวียนจริงๆ เราต้องเลี้ยวขวานะคะ แต่มันห้ามเลี้ยวฉะนั้นตรงไปเลยจ้า แล้วเตรียมชิดซ้าย กลับรถใต้สะพานพอกลับรถแล้วให้ขับชิดขวาเตรียมเลี้ยวขวาผ่านตลอดเลยจ้า จากนั้นก็ตรงมานิดหน่อยสังเกตป้ายด้านขวามือ เขียนว่าวัดมเหยงค์ วัดไม่ได้ติดถนนนะจ๊ะ ต้องสังเกตป้ายเอาเลี้ยวเข้าซอยโลดไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอวัดแล้วจ้า อ่าาา..ถึงแล้ว Smiley


Smiley ลงทะเีบียนก่อนบวช Smiley

ที่นี่สามารถบวชได้ทุกวัน เวลา 9 โมงเช้าและสึกเวลา 6 โมงเช้าของทุกวัน คะฉะนั้นอย่ามาสายนะคะ ไม่อย่างนั้นแล้วจะบวชไม่ทัน พอมาถึงแล้วก็รีบไปกรอกใบลงทะเบียนขอบวชตรงจุดรับลงทะเบียนเลยจ้า ที่นี่บวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นคะ 


พอกรอกเอกสารเสร็จแล้วก็เข้าไปที่ห้องประชาสัมพันธ์เพื่อยื่นใบขอบวชกับแม่ชีได้เลยอย่าลืมเอา บัตรประชาชน ไปด้วยนะคะ ต้องใช้ควบคู่การลงทะเบียนจ้า 


พอลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องรีบไปบวชแล้วคะ เดี๋ยวจะไม่ทันเอา เราจำเป็นจะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยพร้อมบวชเลยนะ เพราะที่นี่ค่อนข้างเคร่งคะ แต่เอ็มชอบมากเลยเพราะรู้สึกว่าสงบแบบไม่มีการแบ่งชนชั้นแบบจริงๆ เลยอ่ะคะ ไม่ต้องห่วงสวยด้วย สบายๆ Smiley


ก่อนที่จะเริ่มบวช พอเข้าไปในโบสถ์แม่ชีจะยืนคุมอยู่ด้านหน้าเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนให้เราบวชตามนี้คะ 

1.ผู้หญิงต้องใส่ชุดแม่ชีที่เป็นกระโปรง เสื้อสามส่วนเท่านั้นนะคะ พร้อมสไบพาดที่บ่าถ้าไม่มีไม่ต้องห่วงที่นี่มีให้ยืมเช่นกันคะ เสื้อผ้าถูกซักอย่างดี หอมฉุ่ยเลยแหละ
2.มวยผมให้เรียบร้อยด้วยหนังยางหรือกิ๊ฟสีดำเท่านั้น
3.ไม่ทาเล็บ ทั้งมือและเท้าจ้า ถ้าใครลืมล้างมาไม่ต้องห่วงแม่ชีเขามีน้ำยาล้างเล็บเตรียมไว้ให้เช่นกันคะ
4.ไม่ฉีดน้ำหอมมานะคะ เพราะถ้าแม่ชีได้กลิ่นแบบฉุนจนเกินไป แม่ชีจะให้ไปซับออกด้วยน้ำเพื่อให้กลิ่นเจือจางลงจ้า
5.ไม่แต่งหน้า ทาแป้ง ทาปาก บราๆๆ
6.ไม่ใส่เครื่องประดับทุกชนิด ต่างหู กำไร ข้อมือ ไม่ต้องใส่ทองมาถอดที่นี่นะคะเพราะยังไงก็ต้องถอด ถอดไว้บ้านเลยปลอดภัยสุดจ้า
7.สำรวมทุกย่างก้าว ถ้าสวมชุดแม่ชีแล้วห้ามวิ่ง ห้ามตะโกนนะจ๊ะ



Smiley ที่พัก Smiley



แม่ชีจะเลือกโรงนอนหรือที่พักให้ว่าควรอยู่ชั้นไหน ถ้าเด็กๆ หน่อยก็อยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 3 ถ้ามีอายุหน่อยก็ชั้น 1 เพราะว่ามันไม่มีลิฟต์คะ มีแต่บันได และแน่นอนว่าอิฉันยังเด็กอยู่เลยได้อยู่ชั้น 3 ฮ่าๆ ที่นี่เขาแบ่งที่พักชายกับหญิงนะคะ ฉะนั้นถ้ามาบวชกับแฟนก็ต้องนอนคนละที่นะจ๊ะ

พอเดินเข้ามาในที่พัก แต่ละชั้นจะมีสมุดอยู่หน้าห้อง เราจำเป็นจะต้องกรอกข้อมูลลงในสมุดของชั้นที่เราพักอยู่ด้วยนะคะ เพื่อที่ทางวัดจะได้ตรวจสอบได้ว่าใครจะอยู่กี่วันๆ แต่ละชั้นจะมีตู้ยาเตรียมไว้ด้วย สำหรับคนที่ต้องการยาก็สามารถขอกับทางแม่ชีได้เลยจ้า

เมื่อเรารับศีล 8 มาแล้ว เราจะต้องละการนอนจากที่นอนนุ่มๆ นะคะ ฉะนั้นที่นอนที่นี่จึงเป็นเสื่อแทนที่พักสะอาดสะอ้านดีคะ โดยที่พวกเราสามารถช่วยกันทำความสะอาดได้นะคะ ล้างห้องน้ำกวาดถูห้องช่วยแม่ชีทำความสะอาดอีกแรง ก็ถือเป็นการทำบุญเช่นกันคะ Smiley


ที่นี่มีแค่เสื่อกับหมอนให้นะคะ หมอนของทางวัดก็ดูสะอาดมากเลยคะ ฉะนั้นผ้าห่มต้องเตรียมกันมาเองนะ เผื่อกลางคืนจะหนาว เพราะว่ากลางคืนที่ีนี่ค่อนข้างหนาวเหมือนกันนะ



Smiley ห้องน้ำ Smiley


นี่เป็นห้องน้ำภายในที่พักคะ ห้องน้ำจะมี 2 ฝั่ง ทั้งซ้ายและขวา ภายในห้องน้ำมีฝักบัวอาบน้ำและรองเท้าให้ใส่เวลาที่เข้าห้องน้ำคะ ไม่มีกระดาษเช็ดชู่นะคะ ต้องเตรียมมาเอง Smiley


นี่เป็นห้องน้ำภายนอกที่พัก ห้องน้ำอันนี้ดูหรูหรามากเลยตอนแรกเห็นด้านหน้าคิดว่าเป็นห้อง
ซะอีก คิดว่าสร้างเสร็จได้ไม่นานนะคะ และห้องน้ำส่วนนี้ก็สามารถอาบน้ำได้เช่นกันคะ


Smiley ร้านสวัสดิการ Smiley


ร้านสวัสดิการที่นี่มีขายทุกอย่างเลยคะ ผ้าไตร จีวร ชุดถวายสังฆทาน ชุดบวช ทั้งชายและหญิงเสื้อกันหนาว รวมถึงขนม นม เนย น้ำ มาม่าพร้อมน้ำร้อนใช้ชง ทุกอย่างมีกำกับไว้หมดเลยคะว่าอันไหนทานได้หลังเที่ยงและอันไหนทานไม่ได้ หน้าร้านก็มีตู้เอทีเอ็มเตรียมไว้ให้ด้วยคะเพื่อความสะดวกสบายในการใช้จ่ายคะ 

ร้านเปิด 8.00-17.00 น. และปิดนับสต๊อกสินค้าช่วงเวลา 13.30-15.30 น. แนะนำให้ซื้อผ้ายางสีเขียว ผืนละ 25 บาท  สำหรับไว้ปูนั่งสมาธินะคะ เสื้อแม่ชีที่นี่ตัวละ 100 บาท เสื้อหนาวสีขาวสำหรับแม่ชีตัวละ 240 บาทคะ



Smiley ช่วงทานอาหาร Smiley


ประมาณ 11.30-12.00 น. ก็จะถึงเวลาทานอาหารคะ ตักให้พอทานและอิ่มเลยนะคะ เพราะว่าไม่สามารถตักอาหารเพิ่มได้ และอย่าลืมถือน้ำไปด้วยนะคะเดี๋ยวติดคอเอา


ก่อนจะทานนักบวชทุกคนก็ต้องเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกับสวดบทพิจารณาอาหารพร้อมๆ กันก่อนทานคะหลังจากทานเสร็จก็เก็บจานอาหารของตัวเองล้างและเก็บตรงจุดที่ทางวัดเตรียมไว้ให้คะ


Smiley เวลาปฎิบัติธรรม Smiley


ช่วงเวลา 13.00-13.30 น. นักบวชควรลงมาเดินจงกลม และนั่งสมาธิตรงลานธรรมพร้อมๆ กันคะช่วงเวลานี้จะสัมผัสได้ถึงความสงบและสมาธิแบบสุดๆ เลยแหละคะ


หลังจากนั่งสมาธิเสร็จแล้ว ก็มาดื่มน้ำปานะและก็ช่วยกันทำความสะอาดลานวัด กวาดเศษไม้ใบหญ้าคะ


ช่วงเวลา 16.30 -17.30 น. นักบวชสามารถมานั่งเจริญสมาธิได้บริเวณรอบสระน้ำคะ



Smiley ช่วงเวลาทำวัตรเย็น Smiley

เวลา 18.00 -21.00 น. นักบวชทุกคนจะมารวมตัวกันที่บริเวณลานธรรมอีกครั้งเพื่อทำวัตรเย็นและฟังเทศน์


แนะนำให้ทายากันยุงมาด้วยนะคะ ยุงเยอะมากๆ เลย หนังสือทำวัตรเย็นสามารถหยิบได้ที่ตู้คะเมื่อใช้เสร็จแล้วก็เอาไปเก็บที่เดิมให้เรียบร้อย



Smiley ช่วงเวลาทำวัตรเช้าและขอลาสึก Smiley


ช่วงเวลาประมาณ 4.00-4.30 น. ก็จะมีเสียงระฆังดังขึ้นเพื่อให้เราทุกคนตื่นมาทำวัตรเช้าคะซึ่งถ้าใครจะสึกก็ให้อยู่รอต่อเพื่อขอลาสึกได้เลย ไม่เกิน 6.30 น. พิธีขอลาสึกก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยคะ


วันนี้เอ็มก็ขอลาสึกเรียบร้อยแล้วคะ รู้สึกสงบมากๆ เลย เอาบุญมาฝากทุกคนเลยคะ Smiley

การถ่ายรูปทั้งหมดเพื่อทำรีวิวในขณะบวชอยู่นั้น จุดประสงค์เพียงเพื่อถ่ายทอดให้กับทุกท่านๆที่สนใจอยากจะปฎิธรรมกันได้มีโอกาสรับรู้เท่านั้นนะคะ ไม่ใช่ทำไปเพื่อความสนุกแต่อย่างใดรวมถึงรูปถ่ายตัวเองนี่เป็นการถ่ายตอนที่สึกแล้วนะคะ ถ้าใครที่มีโอกาสได้ไปบวชขอให้บวชอย่างตั้งใจแล้วความสงบก็จะมาหาท่านเองคะ